
อาจารย์ท่านหนึ่ง เคยเล่าเรื่อง “โลก” ที่ชื่อ Gaia (ไกอา) ซึ่งเป็นภาษากรีกที่แปลว่า แผ่นดิน (land) หรือ โลก ให้ฟังในแนวนิทานแฟนตาซี เริ่มตั้งแต่ Gaia คลอดมาโคจรเตาะเตะรอบๆ ระบบสุริยจักรวาล จนเติบโตเป็นวัยรุ่นที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติอันสวยงามเพียบพร้อม แต่แล้วก็ถูกปรสิตที่หากินกับความมีชีวิตของโลก ดูดกินทรัพยากรที่มีอยู่ของโลกแล้วปล่อยของเสียให้โลก จนโลกเริ่มป่วยกระเสาะกระเสะ ทั้งไข้หวัดใหญ่ ที่ทำให้อุณหภูมิร่างกายของโลกสูงปรี๊ด ท้องเสียที่ทำให้ทั้งดินและน้ำในโลกปั่นป่วน แถมด้วยโลกผิวหนังเพราะกลายเป็นหลุมเป็นบ่อไปหมด ตอนนั้นจำได้ว่ารู้สึกสนุกกับเนื้อหาและรู้สึกขำกับการเปรียบเทียบของอาจารย์ที่ทำให้เราเห็นภาพ โลกที่กำลังกลายเป็นคนป่วยอาการเรื้อรังและยังหาทางรักษาไม่ได้ ซึ่งนั่นก็เป็นมุมมองหนึ่งของการทำความรู้จักโลกในฐานะของสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง ที่อยู่ในวัฏฏะสงสาร มีเกิด แก่ เจ็บและตาย ฉันใดก็ฉันนั้นตอนนี้โลกก็คงเหมือนคนเจ็บป่วยที่รอการรักษา และหากถูกปล่อยให้ร่างกายทรุดโทรมไม่นานโลกคงถึงเวลาที่ต้องตายไป เช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นบนโลก และถ้าลองทำอารมณ์ให้อ่อนไหวอีกนิด ก็รู้สึกสงสารโลกขึ้นมาจับใจ เพราะโรคร้ายที่รุมเร้าไม่ได้มีสาเหตุจากวัยของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปเพียงอย่างเดียว แต่หากเกิดจากสิ่งมีชีวิตที่คล้ายปรสิตคอยกัดกินทรัพยากรบนโลกโดยเฉพาะมนุษย์
เราจะช่วยโลกใบนี้ได้อย่างไร

ลดการใช้กระดาษ ที่ช่วยลดการตัดไม้ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตกระดาษ และเพิ่มอายุให้แก่ต้นไม้ ที่มีผลต่อความสามารถในการดูซับก๊าซพิษบนโลก โดยต้นไม้ 1 ต้น จะสามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้โดยเฉลี่ย 1 ตัน ตลอดอายุ
ลดการสิ้นเปลือง เช่น ทานอาหารไม่ให้เหลือ ลดปริมาณขยะ และแยกขยะเพื่อนำกลับไปใช้ใหม่ เนื่องจากทับถมของขยะมูลฝอยและเศษอาหารเป็นต้นเหตุของการเกิดก๊าซมีเทน ที่มีผลต่ออุณหภูมิโลก
ใช้แสงธรรมชาติแทนไฟฟ้า โดยการออกแบบอาคารและตำแหน่งช่องแสงให้เหมาะสมใช้สินค้าที่มีสัญญลักษณ์การรับรองความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น ป้ายฉลากเขียว ประหยัดไฟ เบอร์ 5
ใช้น้ำอย่างประหยัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด เนื่องจากน้ำเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าต่อระบบนิเวศและการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตบนโลกใช้รถให้น้อยลง เดินให้มากขึ้น
รัชดาภรณ์ บุญสาระวัง
นักวิชาการสิ่งแวดล้อม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น