สถานการณ์ปัญหาหมอกควันในพื้นที่จังหวัดลำปางปี2552
โดย นายชานรินทร์ ศรีบุญเรือง
นักวิชาการสิ่งแวดล้อม ระดับชำนาญการ
โดย นายชานรินทร์ ศรีบุญเรือง
นักวิชาการสิ่งแวดล้อม ระดับชำนาญการ
ปัญหาหมอกควันในพื้นที่จังหวัดลำปางในปี2552 มีความรุนแรงมากปีที่ผ่านมา จากข้อมูลการตรวจวัดคุณภาพอากาศของสถานีตรวจวัดในพื้นที่จังหวัดลำปาง ซึ่งกรมควบคุมมลพิษได้ติดตั้งไว้ จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ สถานีศาลหลักเมือง สถานีอนามัยสบป้าด และสถานีสำนักงานการประปาแม่เมาะ พบว่า คุณภาพอากาศระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึง 17 มีนาคม 2552 ส่วนใหญ่ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าสูงเกินกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ที่ 120 ไมโครกรัม ต่อลูกบาศก์เมตร โดยสถานีศาลหลักเมืองมีจำนวนวันที่ฝุ่นฯเกินมาตรฐาน 28 วัน ซึ่งมากกว่าอีก 2 สถานี เมื่อเปรียบเทียบจำนวนวันที่ฝุ่นฯเกินมาตรฐานในปี นี้ กับปี 2551 พบว่า ปีนี้จำนวนวันที่ฝุ่นฯเกินมาตรฐานมากกว่าปี 2551 ทุกสถานี
ในปีนี้ค่าสูงสุดของปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ในพื้นที่จังหวัดลำปาง ตรวจวัดได้ เท่ากับ 268.6 ไมโครกรัม ต่อลูกบาศก์เมตรในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2552 สูงกว่าปี 2551 ซึ่งตรวจวัดได้ เท่ากับ 196.6 ไมโครกรัม ต่อลูกบาศก์เมตรในวันที่ 6 มีนาคม 2551 และในปีนี้ปัญหาได้เกิดขึ้นเร็วกว่าปี 2551 โดยปีนี้ เริ่มตรวจพบฝุ่นฯ เกินมาตรฐาน ณ สถานีสำนักงานการประปาแม่เมาะ ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2552 และในปี 2551 เริ่มตรวจพบฝุ่นฯเกินมาตรฐานในที่ 22 ก.พ. 51
สาเหตุของปัญหาหมอกควันที่เกิดขึ้นรุนแรง และเร็วกว่าปีก่อน เนื่องจากอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น และลักษณะทางภูมิศาสตร์ ซึ่งลำปางเป็นแอ่งกระทะมีภูเขาล้อมรอบ รวมทั้งกิจกรรมต่างๆ ของคนในพื้นที่ที่สนับสนุนให้เกิดปัญหารุนแรงมากขึ้น เช่น การเผาป่า เผาเศษวัสดุทางการเกษตร เผาขยะ การอุตสาหกรรม และการจราจรที่คับคั่ง เป็นต้น ทำให้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาเมืองลำปางกลายเป็นเมืองในหมอก ทัศนวิสัยที่ไม่ค่อยดี ท้องฟ้าไม่แจ่มใส ไม่สามารถมองเห็นในระยะไกลๆได้
เมื่อเกิดปัญหาขึ้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดลำปางได้ร่วมมือกันแก้ไขปัญหา เช่น จังหวัดลำปางมีการจัดประชุมทุกภาคส่วนเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหา มีการจัดรณรงค์ลดปัญหาหมอกควัน จัดนิทรรศการ ประชาสัมพันธ์ทางสื่อต่างๆ เพื่อให้ประชาชนร่วมมือกันลดปัญหาหมอกควันโดยงดการเผาทุกชนิด และมีศูนย์อำนวยการรับแจ้งเหตุหมอกควันและไฟป่าจากประชาชน รวมทั้งในเดือนเมษายนนี้ อบจ.ลำปางได้จัดประชุม อปท.ร่วมใจป้องกันภัยหมอกควัน เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมมือกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นต้น สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหาหมอกควันนั้น ควรแก้ไขปัญหาแบบผสมผสาน อาศัยหลักการทำงานแบบบูรณาการ เพื่อให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันหาแนวทางป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตต่อไป
ในปีนี้ค่าสูงสุดของปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ในพื้นที่จังหวัดลำปาง ตรวจวัดได้ เท่ากับ 268.6 ไมโครกรัม ต่อลูกบาศก์เมตรในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2552 สูงกว่าปี 2551 ซึ่งตรวจวัดได้ เท่ากับ 196.6 ไมโครกรัม ต่อลูกบาศก์เมตรในวันที่ 6 มีนาคม 2551 และในปีนี้ปัญหาได้เกิดขึ้นเร็วกว่าปี 2551 โดยปีนี้ เริ่มตรวจพบฝุ่นฯ เกินมาตรฐาน ณ สถานีสำนักงานการประปาแม่เมาะ ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2552 และในปี 2551 เริ่มตรวจพบฝุ่นฯเกินมาตรฐานในที่ 22 ก.พ. 51
สาเหตุของปัญหาหมอกควันที่เกิดขึ้นรุนแรง และเร็วกว่าปีก่อน เนื่องจากอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น และลักษณะทางภูมิศาสตร์ ซึ่งลำปางเป็นแอ่งกระทะมีภูเขาล้อมรอบ รวมทั้งกิจกรรมต่างๆ ของคนในพื้นที่ที่สนับสนุนให้เกิดปัญหารุนแรงมากขึ้น เช่น การเผาป่า เผาเศษวัสดุทางการเกษตร เผาขยะ การอุตสาหกรรม และการจราจรที่คับคั่ง เป็นต้น ทำให้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาเมืองลำปางกลายเป็นเมืองในหมอก ทัศนวิสัยที่ไม่ค่อยดี ท้องฟ้าไม่แจ่มใส ไม่สามารถมองเห็นในระยะไกลๆได้
เมื่อเกิดปัญหาขึ้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดลำปางได้ร่วมมือกันแก้ไขปัญหา เช่น จังหวัดลำปางมีการจัดประชุมทุกภาคส่วนเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหา มีการจัดรณรงค์ลดปัญหาหมอกควัน จัดนิทรรศการ ประชาสัมพันธ์ทางสื่อต่างๆ เพื่อให้ประชาชนร่วมมือกันลดปัญหาหมอกควันโดยงดการเผาทุกชนิด และมีศูนย์อำนวยการรับแจ้งเหตุหมอกควันและไฟป่าจากประชาชน รวมทั้งในเดือนเมษายนนี้ อบจ.ลำปางได้จัดประชุม อปท.ร่วมใจป้องกันภัยหมอกควัน เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมมือกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นต้น สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหาหมอกควันนั้น ควรแก้ไขปัญหาแบบผสมผสาน อาศัยหลักการทำงานแบบบูรณาการ เพื่อให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันหาแนวทางป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น